post

เชื่อเหลือเกินว่าปี ค.ศ.2020 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่ประวัติศาสตร์จะจารึกไว้อย่างไม่ลืมเลือนว่าเป็นปีที่มนุษยชาติได้ถูกทดสอบอีกครั้งจากธรรมชาติ ด้วยการก่อกำเนิดขึ้นของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) จากประเทศจีน ซึ่งสามารถติดต่อผ่านกันได้จากคนสู่คน ก่อให้เกิดการระบาดของโรคติดต่อลุกลามใหญ่โตไปทั่วโลก ส่งผลให้ต้องมีการปิดประเทศ ปิดการเดินทางเข้าออกระหว่างแต่ละประเทศทั่วโลก และส่งให้ผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงัก เนื่องจากปัจจุบันในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.2020 ยังไม่มีประเทศใดออกมายืนยันว่าสามารถคิดค้นวัคซีนหรือยาที่ใช้รักษาโรคนี้ได้ ทำให้ปรากฏการณ์ใหม่ที่เรียกว่า New Normal ที่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ต้องใส่ Mask ต้องล้างมือให้สะอาดอาจจะยังคงต้องดำเนินต่อไปอีกเป็นระยะเวลาหนึ่ง

เรียกได้ว่าวิกฤตการณ์นี้ส่งผลกระทบไปทั่วโลกในทุก ๆ วงการ ไม่เว้นแม้แต่วงการกีฬา อย่างการจัดงาน บอสตัน มาราธอน (Boston Marathon) หนึ่งในงานมาราธอนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และเป็น 1 ใน 6 งานวิ่งมาราธอนที่คนชอบวิ่งอยากไปเข้าร่วมด้วยมากที่สุด ซึ่งอีก 5 เมืองที่ใช้ในการจัดงานวิ่งมาราธอนดังกล่าว ประกอบด้วย โตเกียว (เดือนกุมภาพันธ์) นิวยอร์ค (พฤศจิกายน) ชิคาโก (ตุลาคม) เบอร์ลิน (กันยายน) และลอนดอน (เมษายน)

ทำความรู้จักกับบอสตัน มาราธอน

รายการแข่งขันวิ่งมาราธอนชื่อดังอย่าง บอสตัน มาราธอน จะถูกจัดขึ้นทุกปีในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งปกติแล้วจะจัดขึ้นทุกวันจันทร์ที่ 3 ของเดือนเมษายน ซึ่งตรงกับวัน Patriots (วันผู้รักชาติ) รายการนี้เป็นรายการวิ่งมาราธอนที่ถือได้ว่าเก่าแก่และดีที่สุดงานหนึ่งของโลก โดยงานวิ่งมาราธอนนี้ถูกจัดขึ้นครั้งแรกในปี 1897 เส้นทางการวิ่งคือเส้นทางพื้นราบสลับเนินเขาตั้งแต่แถบตะวันออกของรัฐแมสซาชูเซตทอดยาวไปจนถึงเมืองบอสตันเป็นระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร

ซึ่งนักวิ่งที่จะสามารถเข้าร่วมรายการแข่งขันนี้ได้จะต้องลงแข่งขันรายการอื่นที่ได้รับการรับรองและผ่านการคัดเลือกมาก่อน โดยทำเวลาได้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้แล้วเท่านั้น เงินรางวัลสำหรับผู้ชนะไม่ว่าจะเป็นประเภทชายหรือหญิงจะอยู่ที่ประมาณ 150,000 เหรียญสหรัฐ โดยในแต่ละปีจะมีผู้เข้าร่วมแข่งขันกว่า 27,000 คน

แน่นอนว่าในสถานการณ์ที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่รายการแข่งขันนี้จะถูกจัดขึ้น ดังนั้นผู้จัดงานจึงได้ประกาศยกเลิกการจัดการแข่งขันวิ่ง บอสตัน มาราธอน แม้ว่าจะเคยมีความพยายามในการจัดงานโดยการเลื่อนการแข่งขันออกไปเป็นวันที่ 14 กันยายนแล้วก็ตาม แต่การแพร่ระบาดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด นี่จึงถือเป็นครั้งแรกในรอบ 124 ปี ที่รายการแข่งขันวิ่งมาราธอนระดับตำนานนี้ไม่ถูกจัดขึ้น

อย่างไรก็ตามเชื่อเหลือเกินว่าในอนาคตหากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หยุดลง หรือมีนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์จากประเทศใดประเทศหนึ่งทั่วโลกสามารถคิดค้นยารักษา หรือวัคซีนสำหรับใช้จัดการกับเจ้าไวรัสชนิดนี้ลงได้ เมื่อนั้นก็คงไม่สายที่จะกลับมาจัดการแข่งขันกีฬาวิ่งมาราธอนรายการดีดีนี้อีกครั้ง เพราะจะอย่างไรเสียมนุษยชาติก็คงจะยังไม่หยุดวิ่งเป็นแน่แท้