post

เรียนรู้วิธีการดูแลตัวเองก่อนการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง

การออกกำลังกาย ถือเป็นกิจกรรมที่ผู้คนทุกเพศทุกวัยให้ความสนใจ เนื่องจากในปัจจุบันผู้คนหันมานิยมให้ความสำคัญกับเรื่องการดูแลสุขภาพร่างกายกันเพิ่มมากขึ้น ด้วยปัญหามลพิษ และโรคภัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการวิ่งก็ถือเป็นกิจกรรมการออกำลังกายประเภทหนึ่งที่ไม่จำเป็นต้องรอใครมาออกด้วยกัน สามารถที่จะวิ่งได้เลยด้วยตัวคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งในร่มหรือกลางแจ้ง ดังนั้นหากใครที่กำลังเริ่มต้นวิ่ง หรือเพิ่งจะเข้าวงการนี้มา สิ่งที่ควรจะต้องรู้เป็นอันดับต้น ๆ ก็คือวิธีการดูแลร่างกายตนเองทั้งก่อนและหลังการวิ่ง ว่าควรจะต้องมีวิธีการอย่างไรบ้าง ซึ่งในบทความนี้เราก็มีวิธีการดูแลตัวเองก่อนการวิ่งมาฝากกันด้วย

วิธีดูการแลตัวเองก่อนการวิ่ง ทำอย่างไรไปดู

              ขึ้นชื่อว่าการวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งเพื่อสุขภาพ การวิ่งเพื่อเป็นการฝึกซ้อมร่างกายเพื่อไปแข่งตามรายการแข่งขันต่าง ๆ ทั้งระยะใกล้ หรือระยะไกล การดูและตัวเอง และการเตรียมร่างกายตนเองให้พร้อมก่อนการวิ่งเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากนักวิ่งท่านใดที่เตรียมพร้อมร่างกายไม่มากพอแล้วนั้น อาจจะทำให้ร่างกายเกิดอาการบาดเจ็บขึ้นได้ ซึ่งนั่นอาจจะผลเสียต่อสุขภาพร่างกายมากกว่าผลดีในระยะยาวก็เป็นได้ ดังนั้นเราไปดูกันดีกว่าว่าเราจะสามารถทำอะไรอย่างไรได้บ้าง เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายของเราพร้อมแล้วสำหรับการออกวิ่ง

  1. การเลือกอุปกรณ์ที่ใช้ในการวิ่งที่จำเป็นให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย เช่น การเลือกรูปแบบของรองเท้าให้เหมาะสมกับลักษณะของเท้าตนเอง เพราะแน่นอนว่าการวิ่งไม่ได้ใช้อะไรมากไปกว่ารองเท้าสำหรับใส่วิ่ง ที่สามารถช่วยป้องกันอันตรายต่าง ๆ ให้กับเท้าของเรา และที่สำคัญ คือ สามารถช่วยลดแรงกระแทกที่อาจจะเกิดขึ้นขณะวิ่งต่อข้อเท้า และข้อเข่าของเรานั่นเอง ดังนั้น การเลือกรองเท้าจึงเป็นสิ่งแรก ๆ ที่นักวิ่งควรให้ความใส่ใจ
  2. การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อันที่จริงเรื่องโภชนาการเป็นเรื่องที่สำคัญมากอยู่แล้วสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับนักวิ่งนั้น นอกจากการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าสารอาหารสูงในทุก ๆ วันแล้วนั้น ในวันที่ต้องมีการแข่งวิ่งจริง ๆ ก็ควรที่จะรับประทานอาหารก่อนวิ่งอย่างน้อยซัก 2 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายสามารถนำพลังงานที่ได้จากอาหารนั้น ๆ ไปเป็นแรงขับเคลื่อนในการวิ่ง ยกตัวอย่างอาหารที่ควรรับประทานก่อนวิ่ง ได้แก่ กล้วยหอม เพราะหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ากล้วยหอมนั้นเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูงแถมกินเข้าไปแล้วยังไม่รู้สึกแน่นท้องเหมือนอาหารประเภทอื่น ๆ อีกด้วย
  3. การยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนการวิ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเปรียบเหมือนการกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัวและพร้อมสำหรับการออกกำลังกาย นอกจากนี้ประโยชน์ของการยืดกล้ามเนื้อมีด้วยกันหลายประการ เช่น ช่วยป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อมีอาการบาดเจ็บได้ อีกอย่างหากมีการวอร์มร่างกายเป็นประจำ ก็จะสามารถช่วยให้กล้ามเนื้อในส่วนที่ได้ออกแรงไปนั้นฟื้นฟูได้เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย แม้แต่การนั่งเล่นเกมที่ VWIN ก็ตาม เราแนะนำให้คุณควรหาจังหวะลุกขึ้นยืดเหยียดร่างกายดูบ้างเช่นกัน
  4. การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ คงไม่ดีแน่ ๆ หากพาร่างกายที่ยังพักซ่อมแซมได้ไม่เต็มที่ไปออกกำลังกายที่ต้องใช้พละกำลังค่อนข้างมาก เพราะจะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าการไม่ออกกำลังกายเสียอีก
  5. การเตรียมจิตใจให้พร้อม เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการวิ่งไม่ว่าจะเป็นระยะทางใกล้ หรือไกล ต่างก็ต้องใช้ความมานะอุตสาหะในการที่จะไปให้ถึงยังจุดหมายปลายทางด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นเตรียมใจให้พร้อม ให้มั่นใจว่าเราจะเป็นหนึ่งในคนที่เข้าเส้นชัยได้อย่างแน่นอน

              เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับวิธีการดูแลตัวเองในแบบต่าง ๆ ก่อนการวิ่ง หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้นักวิ่งหน้าใหม่ ๆ ยังมีแรงและกำลังใจที่ยังอยากจะวิ่งกันต่อไป เพราะการออกกำลังกายนั้น เป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์แน่นอนหากทำอย่างถูกต้อง และถูกวิธี

post

“ADIDAS FUTURECRAFT.LOOP” รองเท้าวิ่งที่สามารถรีไซเคิลตัวเองได้ 100%

ในปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับปัญหาขยะพลาสติกหลายล้านตันต่อวัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ โดย 90% ของขยะพลาสติกไม่ได้ถูกนำกลับมารีไซเคิลอย่างถูกต้อง แต่ถูกนำไปฝังกลบหรือเผาทำลาย เปลี่ยนเป็นมลพิษกลับสู่สิ่งแวดล้อม จึงเกิดการรณรงค์ให้มีการนำพลาสติกกลับมารีไซเคิลใช้อีกครั้งหนึ่ง หลายบริษัทชั้นนำทั่วโลกในทุกวงการต่างขานรับแนวคิดการผลิตสินค้าจากวัสดุรีไซเคิล เพื่อช่วยลดปัญหาขยะของโลกที่นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ Adidas ผู้นำด้านการผลิตสินค้ากีฬา ที่ได้นำพลาสติกใช้แล้วกลับมาผลิตเป็นชุดกีฬาและอุปกรณ์กีฬาต่าง ๆ มากมาย นอกจากนั้นยังได้ร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ อย่างเช่น โปรเจ็ค “UltraBoost X Parley” ที่ออกแบบและผลิตรองเท้าวิ่งร่วมกับ “Perley Ocean Plastic” องค์กรที่ทำหน้าที่รณรงค์ปกป้องมหาสมุทรทั่วโลก โดยนำพลาสติกจากท้องทะเลมาแปรรูปและถักทอกลายเป็นเส้นใย ก่อนจะนำไปขึ้นรูปกลายเป็นรองเท้าวิ่งที่สามารถใส่ได้จริงและเหมาะสำหรับนักวิ่งทุกคน และล่าสุด Adidas ไม่เพียงแต่นำวัสดุพลาสติกเหลือใช้กลับมาผลิตสินค้าเท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาถึงขั้นผลิตรองเท้าวิ่งที่สามารถทำการรีไซเคิลได้สมบูรณ์ 100% ภายใต้ชื่อรุ่น “FUTURECRAFT.LOOP

                ADIDAS FUTURECRAFT.LOOP ถือเป็นอนาคตของวงการรองเท้ากีฬาในการต่อสู้กับขยะพลาสติกทั่วโลก โดยมีกระบวนการผลิตเส้นใยจากขยะพลาสติกที่เก็บจากท้องทะเลนำมาถักทอและขึ้นรูปเป็นรองเท้าวิ่ง มีการนำเอาเทคโนโลยี SPEEDFACTORY มาใช้ในการผลิตพื้นรองเท้า และเมื่อรองเท้าหมดอายุการใช้งานยังสามารถนำกลับมารีไซเคิลเพื่อผลิตเป็นรองเท้าคู่ใหม่ได้อีกด้วย จึงไม่ก่อให้เกิดขยะเพิ่มขึ้นกับโลกนั้นเอง

                Eric Liedtke ผู้บริหารระดับสูงของ Adidas ได้ให้สัมภาษณ์ว่า โดยปกติแล้วเมื่อรองเท้าของคุณหมดอายุ หรือเลิกสวมใส่ มันจะถูกทิ้ง ฝังกลบ หรือเผาทำลาย กลายเป็นการเพิ่มมลภาวะและเพิ่มขยะพลาสติกให้กับโลก แต่สิ่งที่ Adidas กำลังทำอยู่คือการไม่สร้างขยะให้กับโลกอีกต่อไป เราฝันที่จะเห็นทุกคนสามารถใส่รองเท้าคู่เดิมได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อพิสูจน์ว่า Adidas สามารถผลิตรองเท้าวิ่งที่มีประสิทธิภาพโดยที่คุณไม่ต้องทิ้งมันไป

                ขณะนี้ FUTURECRAFT.LOOP ยังอยู่ในขั้นตอน Beta โดยเปิดโอกาสให้เหล่า Creator ทั่วโลกได้ร่วมทดลองใช้งานก่อนการผลิตจริง ซึ่งมีการคาดการณ์ทั้งจากทั่วโลก และผ่าน VWIN ว่ารองเท้ารุ่นนี้จะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วง Spring หรือไม่ก็ Summer ปี 2021

แม้จะยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ FUTURECRAFT.LOOP ในแง่ของการใช้งานด้านกีฬา ซึ่งเป็นหน้าที่ของ SPEEDFACTORY แล็บระดับต้น ๆ ในเรื่องการพัฒนาพื้นร้องเท้ากีฬาของ Adidas ที่จะทำให้ FUTURECRAFT.LOOP มีความสมบูรณ์แบบทั้งในเรื่องคอนเซ็ปต์และการใช้งานจริง แต่นี่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมขององค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ของโลก เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชากรโลกทุกคน

post

6 เคล็ดลับ เตรียมความพร้อม ก่อนวิ่งมาราธอน

การวิ่งมาราธอนเป็นการวิ่งระยะไกล ที่ต้องใช้ความอึดทนพอสมควรจึงจะสามารถวิ่งไปถึงเส้นชัยได้ ดังนั้นจึงต้องเตรียมความพร้อมร่างกายให้ดี เพื่อให้พร้อมสำหรับการวิ่งมากขึ้นและลดความเสี่ยงการบาดเจ็บระหว่างวิ่งมาราธอนด้วย โดยเราก็มี 6 เคล็ดลับมาแนะนำกันดังนี้

1.ยืดกล้ามเนื้อก่อนวิ่ง

ไม่ว่าจะวิ่งระยะใกล้หรือระยะไกล ควรเริ่มจากการยืดกล้ามเนื้อก่อน เพื่อคลายความตึงของกล้ามเนื้อและเพิ่มความยืดหยุ่น จึงวิ่งได้นานขึ้นโดยไม่ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการบาดเจ็บนั่นเอง โดยแนะนำให้ทำท่ายืดเหยียดหลาย ๆ ท่าผสมกันไปประมาณ 15 นาที แล้วจึงค่อยเริ่มต้นวิ่ง

2.ทานอาหารที่มีประโยชน์

การทานอาหารที่มีประโยชน์ก็เป็นการเตรียมพร้อมให้กับร่างกายได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง และเพิ่มพลังงานให้ร่างกายมีความพร้อมสำหรับการวิ่งในระยะทางไกลมากขึ้น แต่ควรกินอาหารก่อนวิ่งอย่างน้อย 2 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อให้อาหารย่อยและไม่เกิดอาการจุกแน่นท้องขณะวิ่งนั่นเอง

3.พักผ่อนให้เพียงพอ

เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนน้อยจะส่งผลให้เกิดความอ่อนเพลีย และไม่สามารถวิ่งมาราธอนให้ถึงเส้นชัยได้ ทั้งยังอาจเกิดการบาดเจ็บระหว่างวิ่งอีกด้วย ดังนั้นควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งใครที่ชอบเล่นคาสิโนออนไลน์บนเว็บ VWIN จนดึกเป็นประจำ ก็ต้องปรับเปลี่ยนเวลาการเล่นสักนิด เพื่อไม่ให้รบกวนเวลานอนจนเกินไป

4.ซ้อมวิ่งบ่อย ๆ

การจะเป็นนักวิ่งมาราธอนที่ดีได้ จะต้องหมั่นซ้อมวิ่งเป็นประจำเพื่อให้ร่างกายเกิดความเคยชิน และสามารถวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อต้องลงแข่งจริง ดังนั้นควรจัดตารางมาซ้อมวิ่งอยู่เสมอ ซึ่งการฝึกซ้อมวิ่งอาจวิ่งด้วยระยะทางเท่าไหร่ก็ได้ไม่ต้องเป๊ะมาก เอาตามที่ร่างกายไหว เพราะหากฝืนมากเกินไปก็จะเกิดอันตรายได้

5.เลือกรองเท้าให้เหมาะสม

การฝึกซ้อมและการมีทักษะในการวิ่งเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ต้องเลือกรองเท้าให้เหมาะสมด้วย เพราะรองเท้าที่ดีจะทำให้คุณวิ่งมาราธอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและไม่เกิดการบาดเจ็บได้ง่าย โดยควรเลือกรองเท้าที่สามารถรองรับการกระแทกได้ดี ออกแบบมาเพื่อการวิ่งระยะไกลโดยเฉพาะ ที่สำคัญควรมีความนุ่มสวมใส่สบายและระบายอากาศได้ดี ทั้งนี้การเลือกรองเท้าวิ่งที่ดีและเหมาะสมจะทำให้คุณมีชัยไปกว่าครึ่งเลยทีเดียว

6.พกน้ำดื่มติดตัวไปด้วย

น้ำดื่มเป็นสิ่งสำคัญที่นักวิ่งมาราธอนจะขาดไม่ได้เลย เพราะเมื่อวิ่งด้วยระยะทางไกลเป็นเวลานาน ร่างกายอาจขาดน้ำจากการเสียเหงื่อและมีอาการกระหายน้ำได้ ดังนั้นจึงควรพกน้ำติดตัวไปด้วย จะได้หยิบออกมาดื่มได้ตลอดทางนั่นเอง

การจะวิ่งมาราธอนให้ไปถึงเส้นชัยได้สำเร็จ จะต้องมีการเตรียมความพร้อมหลาย ๆ อย่าง เพื่อส่งเสริมให้การวิ่งเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้นมาเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองด้วย 6 เคล็ดลับเหล่านี้กันดีกว่า แล้วคุณจะกลายเป็นนักวิ่งมาราธอนมืออาชีพได้ไม่ยาก