post

3 รองเท้าวิ่งมาแรงแห่งปี 2020

ขึ้นชื่อว่ากีฬาวิ่ง สิ่งที่จะขาดไปเสียไม่ได้เลยก็คือรองเท้าวิ่ง เพราะรองเท้าวิ่งดีดีซักคู่จะช่วยให้ผู้สวมใส่มั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าจะสามารถวิ่งออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย และแม้ว่าปี 2020 จะเป็นปีของโรคติดต่อร้ายแรงที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ตื่นตัวต่อความสำคัญของการมีสุขภาพที่แข็งแรง และส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องไปทั่วโลกอย่าง COVID-19 แต่บริษัทผู้ผลิตรองเท้าก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะคิดค้นและผลิตรองเท้าวิ่งที่ดีมีคุณภาพมาให้ลูกค้าได้เลือกซื้อหากันอย่างไม่ย่อท้อ เราไปดูกันดีกว่าว่า 3 รองเท้าวิ่งมาแรงแห่งปี 2020 ประกอบด้วยรองเท้าแบรนด์ใด รุ่นใดกันบ้าง

1. Adidas Ultraboost 20 รองเท้าวิ่งจากค่ายดังอย่าง Adidas มาพร้อมกับเทคโนโลยี Tailored Fiber Placement (TFP) ที่ช่วยให้การสวมใส่รองเท้ามีความกระชับมากยิ่งขึ้น เพิ่มความมีประสิทธิภาพในการช่วย Support เท้าด้วยเกราะอีลาสเตนที่เสริมมาให้ช่วงบริเวณส้นรองเท้าเพื่อช่วยให้สามารถรับแรงกดลดแรงกระแทกส่วนเท้าได้เป็นอย่างดี มาพร้อมดีไซน์สวยเท่แนวสปอร์ตด้วยผ้าถัก Primeknit และสิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คงจะเป็นแผ่นสัญลักษณ์บนลิ้นของรองเท้าซึ่งเป็นของห้องปฏิบัติการแห่งชาติ ประจำสถานีอวกาศนานาชาติ ของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงการร่วมมือในการใช้เทคโนโลยีขึ้นรูปรองเท้าอย่าง Boost ซึ่งศึกษาโดยนักวิทยาศาสตร์ที่เชี่ยวชาญ ทำให้ได้รองเท้าที่มีคุณสมบัติแตกต่างและไม่เหมือนแบรนด์อื่นอย่างแน่นอน

2. Nike Zoom Pegasus Turbo 2 รองเท้าวิ่งจากค่าย Nike ที่โดดเด่นไม่แพ้ใครด้วยเทคโนโลยี ZoomX ที่สามารถช่วยส่งคืนพลังงานจากการวิ่งกลับมาได้ หรือเรียกว่าเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดปริมาณพลังงานที่ใช้ มีน้ำหนักเบา ช่วยในเรื่องของการดูดซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้พื้นรองเท้าบริเวณด้านนอกยังทำจากยางที่สามารถช่วยเรื่องการยึดเกาะได้ดีในทุกสภาพพื้นผิว และด้วยความที่อัปเปอร์ด้านบนใช้ผ้าตาข่ายยิ่งส่งผลให้รองเท้ามีน้ำหนักเบาเพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก อีกทั้งทำให้อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวกอีกด้วย ด้วยคุณสมบัติทั้งหลายที่กล่าวมาทำให้รองเท้าคู่นี้เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้ใส่ได้ทั้งเดินทั่ว ๆ ไปในแต่ละวัน หรือใส่วิ่งทั้งระยะใกล้ ระยะไกล

3. BrooksGhost 12 รองเท้าวิ่งจากค่าย Brooks ที่ราคาไม่แรงแต่การันตีคุณภาพคับแก้วแน่นอน โดย BrooksGhost 12 เป็นรองเท้าที่มีน้ำหนักเบา และนุ่มเหมาะแก่การสวมใส่เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีนวัตกรรมที่เรียกว่าแผ่นโฟม DNA LOFT ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการกันกระแทก และให้ความรู้สึกว่ามีสปริงอยู่ใต้เท้าทำให้ทุกย่างก้าวได้รับความรู้สึกว่าพื้นเท้าเด้งตอบสนองการเคลื่อนไหวได้ดี พื้นรองเท้าชั้นกลาง BioMoGo DNA ที่ถูกคิดค้นใส่เข้ามาเพื่อเอาไว้สำหรับช่วยรองรับการกระแทก อีกทั้งพื้นเท้าชั้นนอกยังมีความทนทานสามารถมั่นใจได้ว่าไม่ลื่นล้มง่ายอย่างแน่นอนเนื่องจากมีพื้นรองเท้าที่ช่วยยึดเกาะติดพื้นได้ดีในทุกสภาพผิว นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี 3D Fit Print ที่การันตีได้ว่าการใส่รองเท้าวิ่งคู่นี้จะให้ความรู้สึกกระชับแต่ก็มีความยืดหยุ่นได้ในเวลาเดียวกัน

เรียกได้ว่าถึงแม้จะมีอุปสรรคอะไรก็ตาม แต่บริษัทผู้พัฒนารองเท้าวิ่งหลากหลายค่ายก็ไม่เคยคิดหยุดนิ่งเพื่อให้คู่แข่งแซงหน้าไปได้ ยังคงมุ่งพัฒนารองเท้าวิ่งดีดีมาให้ผู้ที่ชื่นชอบการวิ่งเลือกสวมใส่กันตามต้องการ และถ้าหากตอนนี้ใครยังไม่มีรองเท้าวิ่งเป็นของตัวเอง นี่อาจจะเป็นโอกาสในวิกฤตที่จะเริ่มต้นหันกลับมาดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายด้วยการวิ่งกันอีกสักครั้ง

post

คุณรู้จักนวัตกรรมและเทคโนโลยีในรองเท้าวิ่งเหล่านี้หรือไม่

ปัจจุบันโลกการค้ามีการแข่งขันกันระหว่างผู้ผลิตเพื่อชิงความเป็นหนึ่งในใจของลูกค้ากันค่อนข้างสูง และสิ่งที่จะทำให้ผู้ผลิตแต่ละเจ้าสามารถเอาชนะใจลูกค้าได้ ก็คือการคิดค้นนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้สินค้าที่ตนผลิตนั้นมีคุณภาพและเป็นที่ต้องการในตลาดมากกว่าสินค้าของคู่แข่ง ดังคำกล่าวที่สตีฟ จอบส์ เคยพูดเอาไว้เมื่อครั้งที่เขายังมีชีวิตอยู่ว่าสิ่งที่จะทำให้สามารถแยกระหว่างผู้นำกับผู้ตามในโลกของธุรกิจได้ก็คือนวัตกรรมนั่นเอง

ซึ่งธุรกิจการผลิตรองเท้าวิ่งก็หนีไม่พ้นกลไกการตลาดนี้ และสำหรับเหล่านักวิ่งทั้งหลายที่จะยังไงเสียก็จำเป็นจะต้องซื้อรองเท้าวิ่งไว้ติดบ้านกันอยู่แล้ว คงจะดีไม่น้อยหากเรามีความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ถูกคิดค้นและใส่เข้ามาในรองเท้าวิ่งแต่ละแบรนด์ เพื่อที่เราจะได้มีความรู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับคุณสมบัติของรองเท้าแต่ละรุ่น เพื่อให้สามารถเลือกซื้อรองเท้าวิ่งที่เหมาะสมกับความต้องการของตัวเองได้อย่างแท้จริง

นวัตกรรม เน็กซ์ เปอร์เซ็นต์ (NEXT% System)

หนึ่งในนวัตกรรมรองเท้าวิ่งของ Nike ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายว่าสามารถช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถที่จะวิ่งได้เร็วขึ้น โดยนวัตกรรมนี้ประกอบไปด้วย 3 ส่วนประกอบที่สำคัญซึ่งทำงานประสานกันส่งผลให้รองเท้าวิ่งที่ใช้นวัตกรรมนี้มีประสิทธิภาพสูง ได้แก่

  • แผ่นคาร์บอนไฟเบอร์บริเวณพื้นรองเท้าที่จะช่วยให้ความรู้สึกราบลื่นขณะเคลื่อนไหวเท้า อีกทั้งทำให้เกิดความสมดุลขณะออกวิ่งช่วยให้สามารถพุ่งทะยานออกไปได้อย่างรวดเร็วและมีความมั่นใจ
  • โครงสร้างโฟมซูมเอ็กซ์ ที่สามารถช่วยลดการสูญเสียพลังงานจากการวิ่งได้เป็นอย่างดี เพราะมีการส่งคืนพลังงานกลับคือให้แก่ผู้สวมใส่นั่นเอง นอกจากนี้ยังช่วยให้รองเท้ามีน้ำหนักเบาง่ายต่อการสวมใส่มากยิ่งขึ้น
  • โครงสร้างไนกี้ซูมแอร์ เทคโนโลยีรองรับแรงที่เกิดจากการกระแทก ทำให้ช่วยไปเพิ่มในส่วนของการส่งคืนพลังงานกลับคืนไปยังผู้สวมใส่

นวัตกรรมบูสต์ (BOOST)

นวัตกรรมรองเท้าวิ่งของ Adidas ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นนวัตกรรมที่สำคัญซึ่งช่วยให้รองเท้าวิ่งในแต่ละรุ่นของ Adidas มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และเป็นนวัตกรรมแรก ๆ ที่ปฏิวัติวงการผลิตรองเท้าวิ่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยนวัตกรรมบูสต์ คือ การพัฒนานวัตกรรมแคปซูลพลังงานบริเวณพื้นรองเท้าส่วนกลาง ที่มีความสามารถในการช่วยคืนพลังงานที่เก็บไว้ให้แก่ผู้สวมใส่ เป็นการช่วยลดการสูญเสียพลังงาน ว่ากันว่านวัตกรรมนี้ทำให้เกิดความยืดหยุ่นสูง และสามารถเก็บและคืนพลังงานกลับให้แก่ผู้ที่สวมใส่ได้มากถึง 85%  ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกถึงความนุ่มสบายของรองเท้า และเมื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยี Tailored Fiber Placement (TFP) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการตัดเย็บและจัดวางโครงสร้างเส้นใยรองเท้าที่มีความถูกต้องแม่นยำในระดับมิลลิเมตรด้วยวัสดุไพรม์นิตด้วยแล้ว ยิ่งช่วยให้รองเท้ามีประสิทธิภาพสูงและมีน้ำหนักค่อนข้างเบา ง่ายต่อการสวมใส่เป็นอย่างยิ่ง ได้ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างผู้วิ่งกับรองเท้าอย่างดีเยี่ยม

เป็นอย่างไรกันบ้างกับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนวัตกรรมที่ได้นำมาฝากคุณผู้อ่านทุกท่านกัน จะเห็นได้ว่าอย่างไรเสียนวัตกรรมก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้สินค้ามีคุณภาพและมีประสิทธิภาพได้ดีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการทำความรู้จักกับนวัตกรรมเหล่านี้เอาไว้ก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีและจำเป็นสำหรับนักวิ่งมือใหม่มือเก่าอยู่ไม่น้อย

post

“ADIDAS FUTURECRAFT.LOOP” รองเท้าวิ่งที่สามารถรีไซเคิลตัวเองได้ 100%

ในปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับปัญหาขยะพลาสติกหลายล้านตันต่อวัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ โดย 90% ของขยะพลาสติกไม่ได้ถูกนำกลับมารีไซเคิลอย่างถูกต้อง แต่ถูกนำไปฝังกลบหรือเผาทำลาย เปลี่ยนเป็นมลพิษกลับสู่สิ่งแวดล้อม จึงเกิดการรณรงค์ให้มีการนำพลาสติกกลับมารีไซเคิลใช้อีกครั้งหนึ่ง หลายบริษัทชั้นนำทั่วโลกในทุกวงการต่างขานรับแนวคิดการผลิตสินค้าจากวัสดุรีไซเคิล เพื่อช่วยลดปัญหาขยะของโลกที่นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ Adidas ผู้นำด้านการผลิตสินค้ากีฬา ที่ได้นำพลาสติกใช้แล้วกลับมาผลิตเป็นชุดกีฬาและอุปกรณ์กีฬาต่าง ๆ มากมาย นอกจากนั้นยังได้ร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ อย่างเช่น โปรเจ็ค “UltraBoost X Parley” ที่ออกแบบและผลิตรองเท้าวิ่งร่วมกับ “Perley Ocean Plastic” องค์กรที่ทำหน้าที่รณรงค์ปกป้องมหาสมุทรทั่วโลก โดยนำพลาสติกจากท้องทะเลมาแปรรูปและถักทอกลายเป็นเส้นใย ก่อนจะนำไปขึ้นรูปกลายเป็นรองเท้าวิ่งที่สามารถใส่ได้จริงและเหมาะสำหรับนักวิ่งทุกคน และล่าสุด Adidas ไม่เพียงแต่นำวัสดุพลาสติกเหลือใช้กลับมาผลิตสินค้าเท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาถึงขั้นผลิตรองเท้าวิ่งที่สามารถทำการรีไซเคิลได้สมบูรณ์ 100% ภายใต้ชื่อรุ่น “FUTURECRAFT.LOOP

                ADIDAS FUTURECRAFT.LOOP ถือเป็นอนาคตของวงการรองเท้ากีฬาในการต่อสู้กับขยะพลาสติกทั่วโลก โดยมีกระบวนการผลิตเส้นใยจากขยะพลาสติกที่เก็บจากท้องทะเลนำมาถักทอและขึ้นรูปเป็นรองเท้าวิ่ง มีการนำเอาเทคโนโลยี SPEEDFACTORY มาใช้ในการผลิตพื้นรองเท้า และเมื่อรองเท้าหมดอายุการใช้งานยังสามารถนำกลับมารีไซเคิลเพื่อผลิตเป็นรองเท้าคู่ใหม่ได้อีกด้วย จึงไม่ก่อให้เกิดขยะเพิ่มขึ้นกับโลกนั้นเอง

                Eric Liedtke ผู้บริหารระดับสูงของ Adidas ได้ให้สัมภาษณ์ว่า โดยปกติแล้วเมื่อรองเท้าของคุณหมดอายุ หรือเลิกสวมใส่ มันจะถูกทิ้ง ฝังกลบ หรือเผาทำลาย กลายเป็นการเพิ่มมลภาวะและเพิ่มขยะพลาสติกให้กับโลก แต่สิ่งที่ Adidas กำลังทำอยู่คือการไม่สร้างขยะให้กับโลกอีกต่อไป เราฝันที่จะเห็นทุกคนสามารถใส่รองเท้าคู่เดิมได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อพิสูจน์ว่า Adidas สามารถผลิตรองเท้าวิ่งที่มีประสิทธิภาพโดยที่คุณไม่ต้องทิ้งมันไป

                ขณะนี้ FUTURECRAFT.LOOP ยังอยู่ในขั้นตอน Beta โดยเปิดโอกาสให้เหล่า Creator ทั่วโลกได้ร่วมทดลองใช้งานก่อนการผลิตจริง ซึ่งมีการคาดการณ์ทั้งจากทั่วโลก และผ่าน VWIN ว่ารองเท้ารุ่นนี้จะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วง Spring หรือไม่ก็ Summer ปี 2021

แม้จะยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ FUTURECRAFT.LOOP ในแง่ของการใช้งานด้านกีฬา ซึ่งเป็นหน้าที่ของ SPEEDFACTORY แล็บระดับต้น ๆ ในเรื่องการพัฒนาพื้นร้องเท้ากีฬาของ Adidas ที่จะทำให้ FUTURECRAFT.LOOP มีความสมบูรณ์แบบทั้งในเรื่องคอนเซ็ปต์และการใช้งานจริง แต่นี่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมขององค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ของโลก เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชากรโลกทุกคน

post

รองเท้าวิ่งที่ดีคืออีกหนึ่งเคล็ดลับของนักวิ่งที่ยอดเยี่ยม

                ในการวิ่งนอกจากจะต้องใช้แรงในร่างกาย และการเคลื่อนไหวทั้งหมดของร่างกายแล้ว รองเท้ายังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับการวิ่งเป็นอย่างมาก เพราะในการวิ่ง แม้ทุกคนจะสามารถวิ่งกันได้ด้วยเท้าเปล่าแบบไม่ใส่อะไรเลยนั้นก็สามารถทำได้ แต่อาจจะพบกับอันตรายระหว่างการวิ่ง พร้อมทั้งยังทำให้เกิดแผลพุพองที่ผิวหนังหลังจากไปกระทบตามพื้นที่มีความร้อนจัด ทำให้เมื่อวิ่งเสร็จแล้วจะไม่สามารถเดินเหินแบบปกติเหมือนเดิมได้จนกว่าจะหาย ดังนั้นรองเท้าจึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาเท้าให้ปลอดภัยจากการวิ่งในทุกครั้งได้

อีกทั้งในการวิ่งนั้นยังได้ส่งผลกระทบไปยังอวัยวะส่วนหัวเข่า ที่ต้องคอยเปลี่ยนแปลงในการรองรับน้ำหนักของร่างกาย และรองรับน้ำหนักของแรงวิ่งกระทบจากพื้นไปพร้อมกัน ทำให้ในการวิ่งในรูปแบบต่าง ๆ นั้นจะสามารถทำให้เกิดอันตรายไปยังบริเวณหัวเข่าได้อีกด้วย ซึ่งหมายความว่าถ้าในการวิ่งมีรองเท้าที่นอกจากจะสามารถรักษาเท้าได้แล้ว ยังสามารถรักษาหัวเข่าได้ในเวลาเดียวกัน รองเท้าวิ่งที่มีคุณสมบัติรักษาอวัยวะทั้งคู่นั้น จะเป็นรองเท้าที่ดีสำหรับนำมาเลือกใส่วิ่งให้ปลอดภัย

ปัจจุบันรองเท้าวิ่งได้ถูกออกแบบและพัฒนามามากมายสำหรับผู้รักการวิ่ง พร้อมทั้งยังพัฒนาให้มีน้ำหนักเบาราวกับวิ่งเท้าเปล่าที่มีเกราะป้องกันชั้นดีคอยปกป้องตลอดเส้นทางการวิ่ง อีกทั้งยังได้มีการผลิตโดยบริษัทผลิตรองเท้ายักษ์ใหญ่หลายสำนัก ทั้ง ไนกี้, อดิดาส, มิซูโน่ และซอโคนี่ โดยบริษัท ซอโคนี่ นั้นเป็นรองเท้าวิ่งประจำปี 2018 ที่ได้รับรางวัลรองเท้าวิ่งยอดเยี่ยมหรือ Runner’s World “Editor’s Choice” ซึ่งรองเท้าที่ได้รับรางวัลนั้นมีชื่อรุ่นว่า คินวาร่า 9 มีราคาขายตามท้องตลาด คิดเป็นเงินประเทศไทยอยู่ที่ 3,990-4,200 บาท และได้เปิดตัวขายรุ่นนี้ที่ประเทศไทยเป็นที่แรกอีกด้วย

โดยคุณสมบัติที่พิเศษของรองเท้าที่ได้รับรางวัลรองเท้ายอดเยี่ยมนั้น คือความเบาของน้ำหนักรองเท้าที่มีความเบาถึง 213 กรัม เมื่อยิ่งเบาทำให้ยิ่งวิ่งได้เร็วและง่ายขึ้น พร้อมทั้งวัสดุชั้นเยี่ยมที่คอยรองรับแรงกระแทกแบบเต็มเท้า ที่สามารถทำให้วิ่งแข่งได้ทั้งในแบบปกติและแบบไตรกีฬาหนัก ๆ ได้ ดังนั้นหากได้รองเท้าที่มีความเยี่ยมยอดสำหรับการวิ่งไปข้างหน้า ในแบบที่ไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพหรือเรื่องอื่นใดแล้ว การทำเวลาวิ่งในระดับโลกและการแข่งขันวิ่งในทุกรูปแบบจะสามารถสร้างเวลาและสถิติการแข่งขันได้ดีขึ้นมากกว่าเดิม ทำให้รองเท้าที่ยอดเยี่ยมจึงเป็นเคล็ดลับส่วนหนึ่งของนักวิ่งที่ได้รับชัยชนะในการแข่งขัน