post

50 State Marathon Finisher ความภาคภูมิใจของนักวิ่งผู้พิชิตทั่วอเมริกา

รางวัลที่ยิ่งใหญ่ในการวิ่งมาราธอนของโลกคือการพิชิตเมเจอร์ทั้ง 6 และเป็นผู้ครอบครองเหรียญ Six Stars Finisher แต่หากเป็นนักวิ่งมาราธอนชาวอเมริกันแล้ว ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ใครทำสำเร็จจะได้รับการยกย่องอย่างมากไม่แพ้กัน นั่นคือการวิ่งพิชิตรายการมาราธอนที่จัดขึ้นในประเทศครบทุกรัฐ

แผ่นดินอเมริกาที่กว้างใหญ่ประกอบขึ้นด้วยรัฐทั้ง 50 รัฐ แต่ละรัฐต่างก็มีชมรมวิ่งของตัวเอง รวมไปถึงในมหาวิทยาลัยก็มีชมรมวิ่งมาราธอนอย่างกว้างขวาง ตลอดจนก็มีการจัดงานวิ่งทั้งระยะสั้นและระยะไกลเป็นประจำ ทำให้อเมริกาเป็นประเทศที่มีงานวิ่งอย่างมากมาย จนเกิดเป็นความท้าทายสำหรับนักวิ่งที่สามารถลงแข่งขันมาราธอนครบทุกรัฐ ซึ่งคนที่จะผ่านเงื่อนไข 2 ข้อแต่ยากสุดๆ ที่ว่าวิ่งมาราธอนครบทั้ง 50 รัฐอย่างน้อยรัฐละ 1 ครั้งและต้องทำเวลา Sub4 หรือใช้เวลาน้อยกว่า 4 ชั่วโมงเท่านั้น

ผู้ที่พิชิตชาลเลนจ์สุดหินนี้ได้จะได้รับการบรรจุชื่อเข้าเป็นสมาชิกของ 50 States Marathon Club พร้อมกับได้รับโล่รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ แต่ว่าตั้งแต่ก่อตั้งองค์กรดังกล่าวขึ้นในปี 2001 มีนักวิ่งที่ประสบความสำเร็จจากการพิชิตมาราธอนครบ 50 รัฐรวม 1,490 ราย (ยังได้รับการยืนยันไม่ครบ) โดยนักวิ่งอายุน้อยที่สุดที่ทำสำเร็จเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุ 17 ที่เริ่มวิ่งได้ 3 ปี แต่ลงสนามไปถึง 367 สนามในตอนนั้น ขณะที่นักวิ่งหญิงอายุ 20 ปีรายหนึ่งสามารถพิชิตมาราธอนครบ 50 รัฐโดยการลงวิ่งมาราธอนไม่ซ้ำรัฐตลอด 50 รายการ

อันที่จริงแล้วการวิ่งพิชิต 50 รัฐเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1983 โดยคนแรกที่ทำสำเร็จคือปู่ Wally Herman จากออนตาริโอ้ แคนาดา แต่เป็นที่รับรู้กับเพียงในกลุ่มวิ่งเล็กๆ ซึ่งกลุ่มนี้เองที่เป็นผู้ริเริ่มรวมตัวสร้างชมรมนักวิ่งพิชิต 50 รัฐขึ้น แต่กว่าจะสำเร็จลงตัวก็ต้องรอกันเกือบ 20 ปีทีเดียว

รายการวิ่งมาราธอนพิชิต 50 รัฐได้รวมเอา 3 รายการในประเทศที่เป็นส่วนหนึ่งของ 6 เมเจอร์หลักเข้าไปด้วย ไม่ว่าจะบอสตัน มาราธอนของรัฐแมสซาชูเซตส์, ชิคาโก มาราธอนของอิลลินอยส์และนิวยอร์ก มาราธอนของรัฐนิวยอร์ก แต่เนื่องจากช่วงแรกๆ หลายรัฐยังไม่มีการจัดวิ่งมาราธอนอย่างเป็นทางการ ทางองค์กรก็เลยไปเป็นผู้ดำเนินการให้เพื่อให้สามารถเกิดการวิ่งพิชิต 50 รัฐได้ เนื่องจากเป็นการยากไม่น้อยที่จะสามารถวิ่งครบ 50 รัฐได้ง่ายๆ ทางสมาคมที่จัดรางวัลนี้จึงมีรางวัลรายทางให้ด้วย โดยผู้ที่ผ่านการลงแข่ง 10 มาราธอนขึ้นไปสามารถสมัครเป็นสมาชิกของชมรมได้ ในช่วงเวลาหลังจากนั้นก็มีการจัดตั้งองค์กร 50 States Half Marathon Club ขึ้นมาบ้าง

ปัจจุบัน 50 States Marathon Club มีสมาชิกนักวิ่งทั้งชาวอเมริกันและต่างชาติรวม 4,613 คน สะสมสถิติงานวิ่งมาราธอนรวมกันไปเกิน 3 แสนรายการ พร้อมทั้งขยายความสัมพันธ์ไปทั่วทั้งโลก โดยเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการวิ่งพิชิตประเทศแคนาดา ประเทศออสเตรเลีย และพิชิตทั้ง 7 ทวีปตามมา

เรื่องราวของนักวิ่งที่พิชิต 50 รัฐของอเมริกากลายเป็นแรงบันดาลใจผู้คนจำนวนมาก ในวันที่โซเชียล กลายเป็นเครื่องมือสื่อสารชั้นดี นักวิ่งที่ตั้งเป้าพิชิต 50 รัฐจำนวนไม่น้อยได้บันทึกเรื่องราวความยินดีและความเหนื่อยยากของพวกเขาลงบนสื่อที่ถูกนำเสนอไปทั่วโลก

post

รูปแบบการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่ทุกคนต้องรู้ ก่อนที่จะยื่นสมัครลงแข่งขัน

                ในการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่ทุกคนรู้จักและเข้าใจเป็นส่วนใหญ่นั้น เป็นการแข่งขันวิ่งแข่งกันในแบบที่ใช้เส้นทางระยะยาวแบบเดียวเป็นการตัดสินผลลัพธ์ของการแข่งขันเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการแข่งขันวิ่งมาราธอนยังได้ถูกแบ่งออกมาถึง 5 ประเภทการวิ่ง ที่ใช้เส้นทางในระยะยาวเป็นตัวตัดสิน ในหลากหลายระยะเส้นทาง โดยสามารถแยกประเภทด้วยการใช้ระยะทางเป็นตัวกำหนดประเภทของการแข่งขันวิ่งมาราธอน ดังนั้นถ้าต้องการที่จะลงแข่งขัน ควรรู้ก่อนว่ารายการที่ลงแข่งขันเป็นการแข่งขันมาราธอนประเภทไหน และร่างกายสามารถวิ่งได้ถึงหรือไม่ ก่อนที่จะตัดสินใจลงแข่งขัน

โดยประเภทในการแข่งขันวิ่งมาราธอนถูกแบ่งแยกออกมาทั้งหมดได้ 5 ประเภท ได้แก่ ประเภท FUN RUN , MINI MARATON , HALF MARATON , FULL MARATON และ ULTRA MARATON ซึ่งทั้งหมดได้ถูกแบ่งแยกเป็นประเภทโดยการนับระยะเส้นทางในการวิ่งจากจุดเริ่มต้นไปจนถึงยังจุดเส้นชัยการแข่งขัน โดยที่ต้องแบ่งแยกเป็นประเภทนั้น เพราะต้องการให้มีความท้าทายมากขึ้นในการแข่งขันวิ่งมาราธอน

ในความท้าทายขั้นแรกของนักวิ่งมือสมัครเล่นทุกคนที่สามารถลงแข่งขันได้อย่างสบายใจ คือการแข่งขันวิ่งมาราธอนแบบ FUN RUN ที่ใช้ระยะทางการวิ่งเพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น ทำให้เหมาะแก่ผู้ที่สนใจอยากลองทดสอบวิ่งมาราธอนเป็นครั้งแรก ส่วนประเภทที่สอง คือ การแข่งขันวิ่งมาราธอนแบบ MINI MARATON ที่มีระยะทางการแข่งขันเพิ่มขึ้นรวมเป็น 10 กิโลเมตร เป็นการแข่งขันวิ่งสำหรับผู้มีประสบการณ์พอสมควร เพื่อทดสอบและฝึกซ้อมการที่จะก้าวเข้าสู่การแข่งขันที่ใหญ่ขึ้นในระดับขั้นต่อไป และเมื่อร่างกายสามารถก้าวข้ามขั้นระดับเบื้องต้นแล้วในระดับต่อไปนั้นจะเป็นระดับขั้น HALF MARATON ที่ใช้ระยะทางรวมกันเพิ่มขึ้นไปอีกถึง 21.10 กิโลเมตร เป็นการวิ่งมาราธอนสำหรับการก้าวข้ามไปสู่เส้นทางนักวิ่งมาราธอนมืออาชีพ ก่อนที่จะไปถึงการแข่งขันในระดับชาติแบบ FULL MARATON ที่ใช้ระยะทางการแข่งขันสูงถึง 42.195 กิโลเมตรสำหรับในการแข่งขันชิงแชมป์ระดับโลก และในระดับสุดท้ายของการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่มีระยะทางยาวที่สุดในโลก ULTRA MARATON ที่ซึ่งเป็นระดับพิเศษที่จัดไว้ให้สำหรับนักวิ่งมืออาชีพและนักกีฬาระดับโลก ให้ออกไปค้นหาความท้าทายอันยิ่งใหญ่ที่มีระยะทางมากเกินกว่า 42.195 กิโลเมตร ซึ่งได้เกินกว่าการแข่งขันในระดับโลกกำหนด

ทั้งหมดคือการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่มีการจัดการแข่งขันขึ้นบนโลกใบนี้ เพื่อเพิ่มอรรถรสความสนุกสนานในการวิ่ง และความท้าทายในการวิ่งให้ทวีความน่าหลงใหลมากขึ้น พร้อมทั้งยังทำให้ผู้คนที่ไม่เคยวิ่งได้หันมาสนใจการออกกำลังกายในรูปแบบการวิ่งให้มากขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีกว่าเดิม และสำหรับบุคคลใดต้องการลงแข่งขันวิ่งในรายการต่าง ๆ อย่าลืมตรวจสอบให้ดีว่าเป็นรายการแข่งขันประเภทไหน และอย่าลืมฝึกซ้อมร่างกายกันด้วยล่ะ