post

                นอกจากการวิ่งจะเป็นการออกกำลังกาย และเป็นกีฬาที่ใช้ในการแข่งขันระดับโลกแล้ว การวิ่งยังเป็นการท้าทายศักยภาพส่วนบุคคลในชีวิตได้อีกด้วย โดยการแข่งขันมาราธอนในปัจจุบันนั้น ได้มีการจัดการแข่งขันขึ้นมามากมายหลายรายการ ซึ่งในแต่ละรายการนั้นเป็นการวิ่งเพื่อความบันเทิงและสนุกสนาน เพื่อให้ได้รับสุขภาพที่ดีไปพร้อมกันกับความบันเทิงในการวิ่ง

การแข่งขันวิ่งมาราธอน คือ การแข่งขันวิ่งระยะทางไกลตั้งแต่ 10 กิโลเมตร ขึ้นไป โดยที่ใครสามารถเป็นผู้ไปถึงเส้นชัยก่อนได้นั้นจะเป็นผู้ชนะในการแข่งขันในแต่ละรายการ ซึ่งสำหรับผู้ที่ได้ฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดีแล้ว จะสามารถวิ่งแข่งขันกับนักวิ่งรายอื่นได้อย่างง่ายดาย เพื่อจะไปให้ถึงเส้นชัยเป็นคนแรก แต่สำหรับนักวิ่งที่ลงแข่งในรายการแรกหรือยังเป็นมือสมัครเล่นที่พึ่งเริ่มลงแข่ง อาจจะทำให้ไปไม่ถึงเส้นชัยได้อย่างง่าย จนอาจจะต้องถอนตัวออกจากการแข่งขันกลางคัน เนื่องจากไม่มีแรงและพละกำลังในการวิ่งไปให้ถึงเส้นชัย ดังนั้นหากได้เรียนรู้เทคนิคที่ในการวิ่งมาราธอนก่อนที่จะลงแข่งนั้น จะทำให้สามารถวิ่งได้จนจบการแข่งขัน

เทคนิคการฝึกวิ่งมาราธอนก่อนที่จะลงแข่งขันจริงนั้น จะต้องใช้เวลาฝึกซ้อมก่อนแข่งประมาณ 8-16 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับระยะทางที่คุณได้ลงแข่ง โดยเริ่มในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ด้วยการใช้จังหวะการวิ่งช้าในอัตราการวิ่งที่สม่ำเสมอเป็นเวลา 30-60 นาที เพื่อที่จะได้รู้จังหวะในการวิ่งของตัวเองเสียก่อน และเป็นการปรับร่างกายตัวเองให้พร้อมรับการฝึก ในช่วงทำการฝึกจะต้องมีวันพัก วันหยุด บ้าง เพื่อให้ร่างกายได้รักษากล้ามเนื้อที่สึกหรอ สำหรับผู้ที่จริงจังนั้น จะมีตารางฝึกซ้อมที่ชัดเจนตลอดการฝึกซ้อม มีการเพิ่มในส่วนของเวทเทรนนิ่ง และอาหารเข้ามาร่วมด้วย

มือใหม่ทั้งหลายไม่ควรจะฝึกซ้อมแบบหักโหม หากมีอาการตึง บาดเจ็บ ก็ควรทำการพักให้หายเสียก่อน อย่าลืมว่างานวิ่งไม่ได้มีแค่งานเดียว มีให้คุณได้ลงแข่งทุกสัปดาห์ จะยืดรายการแข่งออกไปที่รายการอื่นก็ยังได้ นอกจากการฝึกซ้อมแล้วการพักผ่อน และทำใจให้สบายในคืนก่อนแข่ง มือใหม่ก็มักจะตกม้าตาย ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับในคืนวันเสาร์ แผนที่ซ้อมมาจึงมีล่มไม่เป็นท่า เราแนะนำให้คุณงดกินของอะไรแปลก ๆ ไม่ทำกิจกรรมในช่วงกลางวันมากเกินไป ศึกษาเส้นทาง จุดเช็คอิน จุดบริการต่าง ๆ ให้ดี และใครมีโรคประจำตัว ก็พกยา จดเบอร์ติดต่อฉุกเฉินเอาไว้ด้วย

เมื่อได้ฝึกซ้อมเทคนิคสำหรับการวิ่งมาราธอนในระยะเวลาอันสั้นแล้ว เมื่อลงแข่งขันจริงร่างกายจะสามารถมีความอดทนพอที่จะวิ่งไปให้ถึงเส้นชัยได้อย่างสบาย แต่ถ้าหากต้องการที่จะได้รับชัยชนะในการแข่งขันนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาฝึก เทคนิคมากขึ้น และสม่ำเสมอในทุกวัน ถึงอย่างไรก็ตามไม่ว่าจะวิ่งเพื่อชัยชนะหรือเพื่อร่วมสนุกในการแข่งขันสิ่งพิเศษที่ได้รับมามากกว่าสิ่งใด ๆ นั้นก็คือสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงของตนเอง